รีวิวฉบับนี้เราสองคนจะพามาพักผ่อนที่ เทวาศรม เขาหลัก (Devasom Khao Lak Beach Resort) เป็นการกลับมาที่นี่เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 ปี ของเราสองคน โดยตั้งใจมาใช้เวลาอยู่ในรีสอร์ทกันตลอด 3 วัน 2 คืน เรียกได้ว่า กิน นอน นวด เล่นน้ำ ชิลล์ริมหาด ครบ จบ ในที่เดียวค่ะ ( ปล. บรรยากาศในรีวิวนี้ เราเดินทางกันช่วง ต.ค. 2564 นะคะ )
เทวาศรม เขาหลัก (Devasom Khao Lak Beach Resort) เป็นหนึ่งในรีสอร์ทริมทะเลเขาหลัก จ.พังงา ที่นุ่นประทับใจ และคิดว่าควรค่าแก่การมาพักผ่อนที่นี่สักครั้ง บริเวณรีสอร์ทถูกออกแบบสไตล์อาณาจักรโบราณริมทะเลแฝงไปด้วยอารยธรรมของภาคใต้ สวยงามโดดเด่นแตกต่างจากรีสอร์ทอื่นอย่างเห็นได้ชัด พร้อมบริการแบบอบอุ่น เอาใจใส่ในรายละเอียด และผ่อนคลาย เหมาะกับการมาพักผ่อนกายและใจริมทะเล พร้อมกิจกรรมหลากหลาย และอาหารอร่อย
การเดินทาง
เราสองคนเริ่มเดินทางจากรุงเทพฯ โดยบินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมิ ลง ที่สนามบินภูเก็ต และใช้บริการ limousine ของทางรีสอร์ทไปรับที่สนามบิน โดยรีสอร์ท เทวาศรม เขาหลัก (Devasom Khao Lak Beach Resort) อยู่ห่างจากสนามบินภูเก็ตประมาณ 80 กม. ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินภูเก็ตประมาณ 1.20 ชั่วโมง
พื้นที่รีสอร์ททั้งหมดประมาณ 16 ไร่ เดินเล่น ทั่วรีสอร์ทได้สบายๆ ไม่เหนื่อยจนเกินไป หรือหากใครไม่สะดวกจะเดิน ทางรีสอร์ทก็มีบริการรถ buggy รับส่งจาก ล้อบบี้-ห้องพัก-ห้องอาหาร-สระว่ายน้ำ
ภายในรีสอร์ท มีห้องพักและวิลล่าเพียง 69 ยูนิต เน้นความสงบและเป็นส่วนตัว จุดเด่นของห้องพักและวิลล่าทุกหลัง คือ มองเห็นทะเลอันดามัน ทุกห้อง ทุกหลัง มีขนาดกว้างขวาง ตกแต่งอย่างละเมียดใส่ใจในรายละเอียด และผ่อนคลายสบายน่าพักผ่อน แต่ละ roomtype ก็มีจุดเด่นแตกต่างกัน
ครั้งนี้ เรามาพักกัน 2 คืน ใน 2 roomtypes คือ Seaside Pool Paradise Suite และ Beach Pool Villa ซึ่งให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เชิญชมพร้อมกันค่ะ
Seaside Pool Paradise Suite
มาเริ่มกันที่ห้องพักในคืนแรกของเรากันก่อนนะคะ นี่คือ Seaside Pool Paradise Suite ห้องเราอยู่บนชั้น 2 ของอาคาร ด้านในแบ่งเป็นสัดส่วนได้ดี มีห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ระเบียง สระว่ายน้ำขนาด 5x 2.4m และอ่างอาบน้ำสุด sexy ที่อยู่กลางห้อง
ห้องพักประเภทนี้จะหันหน้าเฉียงออกทางทะเล ซึ่งแต่ละห้องจะสร้างไว้เหลื่อมๆ กัน จะทำให้เห็นวิวทะเลได้แบบไม่บังกันค่ะ
เตียงขนาด 7 ฟุต พร้อมเครื่องนอนที่นุ่มสบายไม่แพ้รีสอร์ทเชนดังๆ ทำให้เราหลับสบายจนแทบไม่อยากลุกเลยล่ะค่ะ
เครื่องดื่มและขนมในตู้เย็น mini-bar ในห้อง สามารถทานได้เลยโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) นอกจากนี้ยังมีเครื่องชงกาแฟแคปซูลไว้ให้ได้ชงดื่มกันด้วยค่ะ
มีเกลือสปาไว้ให้ขัดผิว และบริการทำฟองให้ฟรีด้วยนะคะ สามารถนัดเวลากับทางพนักงานตอนเช็นอินได้เลย
สระว่ายน้ำขนาดกำลังดี ไม่เล็กไม่ใหญ่ ว่ายเล่นๆ ได้ หรือ แช่ชมวิวก็เหมาะมากเลย
ห้องอาหาร ตะโกลา
สำหรับที่ เทวาศรม เขาหลัก (Devasom Khao Lak Beach Resort) มีห้องอาหาร สองห้อง คือ ห้องอาหาร ตะโกลา และห้องอาหาร Devasom Beach Grill ที่นี่ทั้งสองห้องอาหาร ได้รับรางวัล MICHELIN Guide 2021 ด้วยทั้ง TAKOLA (Bib Gourmand) และ DEVASOM Beach Grill (MICHELIN Plate) และได้รับSHA+ ทั้งสองห้องอาหาร
มื้อเที่ยงของวันแรกนุ่นจะพาไปทานกันที่ห้องอาหารตะโกลากันค่ะ มาถึงพังงาทั้งทีก็ต้องจัดอาหารใต้แซ่บๆ กันหน่อย! ที่ห้องอาหารนี้จะเน้นอาหารภาคใต้เช่น หมูฮ้อง, น้ำพริกตะโกลา, อาหารไทยโบราณหาทานยาก เช่น ม้าฮ่อ แกงปูใบชะพลูและ อาหารไทยยอดนิยม เช่น ผัดไทย ต้มยำกุ้ง ฯลฯ
มาเริ่มกันที่เมนูธรรมดาแต่ที่นี่ทำออกมาได้หน้าตาดีอย่าง น้ำพริกกุ้งเสียบตะโกลา (280 บาท) รสชาติเข้มข้นจัดจ้าน ตามสูตรพื้นบ้าน เสิร์ฟมาพร้อมกับผักต้ม ผักสด ไข่ต้ม และไข่เจียว ทานเข้ากันดีมาก ยิ่งผสมผสานความกรุบกรอบของกุ้งเสียบยิ่งอร่อยเพลินมากๆ
แกงเหลืองปลากะพง (320 บาท) รสชาติจัดจ้านถึงพริกแกงใต้ และเนื้อปลาสดเด้งดีมาก หั่นมาชิ้นพอดีคำ ทานไปซี๊ดไป เผ็ดแต่อร่อยถึงใจ!
อีกเมนูที่ใครมาทางภูเก็ต-พังงา น่าจะอยากลองทานกันก็คือ หมูฮ้อง (320 บาท) เป็นเมนูท้องถิ่นสูตรอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ โดดเด่นด้วยกลิ่นอบเชยอ่อนๆ และหมูสามชั้นที่หมักและปรุงกว่า 2 ชั่วโม จนนุ่มได้ที่ หวานเค็มกลมกล่อมกำลังดี
อีกเมนูแนะนำที่พลาดไม่ได้ คือนี่เลยค่ะ แกงปูใบชะพลู (360 บาท) เนื้อปูสดหวาน อัดแน่นมาเต็มชาม รวมถึงที่นี่ยังใช้ใบชะพลูปลอดสาร ที่เก็บจากหลังครัวของรีสอร์ทอีกด้วย เสิร์ฟพร้อมกับเส้นหมี่ และผักสด กินเข้ากันดีมาก หอม มัน นัวกะทิ และเผ็ดเครื่องแกงดีค่ะ
ปิดท้ายมื้อนี้ด้วยเบเกอรี่โฮมเมดที่ทางเชฟที่นี่ทำเอง และเลือกสรรวัตถุดิบคุณภาพดีเทียบเท่าร้านดังๆ ได้เลยทีเดียว ทานพร้อมกับ Rose Tea ชาสูตรพิเศษของเทวาศรม ยิ่งเข้ากันได้ดี
MANGO MOUSSE TART
ทาร์ตมูสมะม่วงแสนอร่อยนี้ทำมาจากมะม่วงสุกสดปลูกในท้องถิ่น มีกลิ่นหอมอ่อนๆนำมาทำเป็นเนื้อมุสมีสีธรรมชาติ สวยสด ใส่ลงในทาร์ตทีทำจากข้าวเหนียวมูนเนื้อหอมกรุบกรอบเข้ากันได้อย่างลงตัว มูสมะม่วงนี้เป็นมูสนุ่มฟูมีรสหวานมันของเนื้อมะม่วงอร่อยสุดๆทานแล้วเหมือนรับประทานข้าวเหนียวมะม่วง ในสภาพอากาศแบบเขตร้อนอย่างเขาหลักเค้กชิ้นนี้เป็นเค้กยอดนิยมที่รับประทานได้ตลอดทั้งปี
STRAWBERRY MOUSSE
มูสสตรอเบอร์รี่มาในรูปครึ่งวงกลมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษพร้อมผิวสัมผัสสีชมพูพาสเทลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากสีธรรมชาติของผลสตรอว์เบอร์รี่ ตีครีมและไข่ขาวจนนุ่มกลายเป็นเนื้อเดียวกันออกมาเป็นมูสเนื้อละเอียดเบาและมีรสชาติที่หอมกลมกล่อม เชฟผสมกับผลสตรอว์เบอร์รี่สดทำให้มูสชิ้นนี้อร่อยชื่นใจสุดๆ
Main Swimming Pool
ทานข้าวอิ่มแล้วก็ลุยกันต่อเลยค่ะ! มาที่สระว่ายน้ำส่วนกลางของรีสอร์ทกันบ้าง นี่ก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่โดดเด่นมาก เห็นวิวทะเล และทะเลสาปด้านข้าง มีต้นมะพร้าวรายล้อม และ sunbed ริมสระให้นั่งชิลล์เพียบแบบไม่ต้องแย่งกัน
ได้ว่ายน้ำไปด้วย ชมวิวไปด้วยแบบนี้คือดีต่อใจ ยิ่งวันไหนท้องฟ้า แดดออก เป็นใจ ยิ่งสวย และได้บรรยากาศสุดๆ
ใกล้ๆ กับสระว่ายน้ำ มีมุมกำแพงแบบนี้ ซึ่งเป็นอีกมุมที่สวยเก๋ดูแปลกตาเหมือนไปต่างประเทศ มาแล้วห้ามพลาด ต้องแวะมาถ่ายรูปไว้สักหน่อยนะคะ ช่วงสายๆ เงาต้นมะพร้าวจะทอดมาบนกำแพงพอดีแบบนี้ เราชอบมากเลยค่ะ
สำหรับชายหาดบริเวณนี้ ทรายอาจจะไม่ได้ขาวจั๊ว แต่หาดถือว่าสะอาด ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา สามารถเดินเล่นได้ชิลล์มาก หรือจะวิ่งออกกำลังกายก็จัดไป ได้เหงื่อแน่นอน!
หากใครเป็นสายกิจกรรม ที่นี่ก็มีเรือคายัก, SUP และ body board ให้แขกทุกคนที่เข้าพักได้ยืมเล่นฟรี นอกจากนี้ยังมี Fitness เปิดตลอด 24 ชั่วโมง , Kid Club, และกิจกรรมคลาสเรียนโยคะ หรือ ชกมวยไทย ตามตารางเวลาของรีสอร์ท
ส่วนรอบข้างรีสอร์ทรายล้อมด้วยสวนมะพร้าวและธารน้ำ ทะเลสาปธรรมชาติมีปูเสฉวนเดินไปมา บางวันก็มีชาวเล ทอดแหหาปลา
ตอนเราไปช่วงเช้าเป็นช่วงที่น้ำทะเลขึ้น และช่วงเย็นน้ำลง จะเห็นเนินทราย หรือ sand bank ก็ดูแปลกตา และถ่ายรูปสวยไปอีกแบบ
Beach Picnic
แดดร่มลมตก ยามเย็น ก็มานั่งปิกนิกริมหาด รอดูแสงอาทิตย์ตกสวยๆ กันค่ะ สำหรับใครอยากจัดเต็ม ได้ถ่ายรูปแบบสวยๆ ทางรีสอร์ทก็มีจัดเซ็ตให้แบบนี้ได้ในราคา 2,800 บาท สำหรับ 2 ท่าน พร้อมของทานเล่น และค็อกเทล 2 แก้ว
วันแรกที่มาถึง ท้องฟ้าไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ เลยไม่ได้เห็นแสงอาทิตย์สวยๆ ตอนเย็นเลยค่ะ แต่ไม่เป็นไร… ยังมีเย็นพรุ่งนี้อีกวัน แล้วมาลุ้นไปด้วยกันค่ะ ว่าจะได้เจอแสงสีส้มสวยๆ อันลือชื่อของที่นี่หรือเปล่า…
Breakfast Buffet
อาหารเช้าที่นี่ เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ค่ะ แต่ทางรีสอร์ทก็มีการปรับไลน์บุฟเฟ่ต์ มีการจัดจานแต่ละเมนูไว้ให้แขกเป็นจานๆ เช่น สลัด ผลไม้ แพนเค้ก และอื่นๆ เพื่อให้หยิบได้สะดวกและลดการสัมผัสให้น้อยที่สุด ส่วนอาหารจานร้อน เช่น ก๋วยเตี๋ยว ไข่ต่างๆ และชา กาแฟ สามารถสั่งกับพนักงานได้เลย
โดยส่วนตัวแล้วเราทั้งคู่ชอบอาหารเช้าที่นี่ โดยเฉพาะเมนูอาหารไทย แนะนำห้ามพลาด ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไก่ฉีก และขนมจีนน้ำยา มีให้เลือกทั้งน้ำยาปลา และ แกงไตปลา อร่อยแซ่บทั้งคู่เลยค่ะ
Beach Pool Villa
วันที่สองของเราสองคนที่เทวาศรม เขาหลัก เราย้ายมาพักในพูลวิลล่า Beach Pool Villa ซึ่งพื้นที่กว้างขวางกว่าเดิม สระว่ายน้ำกว้างกว่า
สระว่ายน้ำส่วนตัวขนาด 5.5–6.5 x 3m ว่ายได้สบายๆ พร้อมระเบียงนั่งเล่น รับลมชมวิวแบบเป็นส่วนตัว
และตัวบีชวิลล่านี้ไม่ติดทะเลนะคะ แต่เห็นวิวทะเลและอยู่ใกล้ทะเลมาก เป็นวิลล่าที่อยู่แถวที่ 3 นับจากทางทะเล พร้อมกับทางเดินลงหาดแบบที่เดินใกล้แค่ไม่ถึง 2 นาทีก็ถึงหาด สะดวกมากๆ สำหรับคนที่ชอบอยู่ริมหาดค่ะ
ภายในพื้นที่พูลวิลล่า จะมีห้องนั่งเล่นแยกออกมาเป็นสัดเป็นส่วน เหมือนเป็นวิลล่าย่อมๆ อีกหนึ่งหลังเลยก็ว่าได้ เครื่องดื่มและขนมในตู้เย็น mini-bar ของห้องพูลวิลล่านี้ ทานได้ฟรีทุกอย่าง ไม่เว้นแอลกอฮอล์ จัดเต็มกันเลยค่ะ!
มาพักพูลวิลล่าทั้งที ก็ไม่อยากให้พลาดนี่เลยค่ะ! Floating breakfast หรือ เซ็ตอาหารเช้าลอยน้ำแบบนี้ ราคาเซ็ตละ 850 บาท เป็นอีกประสบการณ์ในการพักผ่อนที่ควรลอง ได้ชิลล์ ได้รูปสวยๆ เก๋ๆ แน่นอน แต่จะชอบหรือไม่ชอบกินในน้ำ ไว้ต้องมาลองด้วยตัวเองกันอีกทีนะ อิอิ
Devasom Spa
สำหรับกิจกรรมในวันที่สอง เราเลือกแบบสบายๆ ผ่อนคลายไปกับการนวดสปาในรีสอร์ทค่ะ ในสปาก็ตกแต่งสวยมาก เข้ากับบรรยากาศในรีสอร์ทเลยค่ะ เค้ามี treatment ให้เลือกหลากหลายแบบมาก สามารถลองกดดูเมนูนวดได้ ที่นี่
เราทั้งคู่ลองนวดน้ำมันหรือ AROMATHERAPY MASSAGE ซึ่งที่นี่จะมีกลิ่นให้เลือก 4 แบบ ทางพนักงานก็แนะนำ อธิบายได้ดี ในห้องนวด ก็เปิดเพลงเบาๆ สบายๆ กลิ่นหอมผ่อนคลาย พนักงานนวดก็น้ำหนักมือกำลังดี นวดคลายเส้นได้ถูกใจตามที่รีเควสไปเลยล่ะค่ะ
Afternoon Tea
ช่วงบ่ายหากไม่ได้ออกไปไหนแบบเรา แนะนำลองมาสั่งอาฟเตอร์นูนทีทานกันแบบชิลล์ๆ ที่ Library หรือ ห้องสมุด ของรีสอร์ท นั่งตากแอร์ กินขนม ดื่มชาหอมๆ กันเพลินๆ
เซ็ตอาฟเตอร์นูนทีที่นี่จะเป็นของทานเล่น ทั้งของคาว และ ของหวาน ซึ่งเป็นขนมไทยหาทานยาก คำเล็กๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับชา 2 ชนิด
DEVASOM Beach Grill
สำหรับมื้อเย็น เราทานกันที่ ห้องอาหาร เทวาศรม บีช กริล (DEVASOM Beach Grill) ห้องอาหารบรรยากาศดีริมทะเลที่ ได้รับการออกแบบตกแต่งไว้อย่างลงตัว มีทั้งโซนห้องแอร์ด้านในแบบ indoor และ outdoor รับลมทะเลริมสระ
ห้องอาหารนี้ เมนูอาหารเป็นแบบเมดิเตอร์เรเนียนสไตล์โฮมคุกกิ้ง นอกจากนี้ยังมีอาหารตะวันตกและพิซซ่าหอมกรุ่นอบใหม่จากเตาถ่านไม้ตำรับอิตาเลียนดั้งเดิม รวมถึงสเต็กต่างๆ และยังมีบรรดาซีฟู้ดสดใหม่ส่งตรงจากกระชังที่ทางรีสอร์ทรับซื้อจากชาวประมงในพื้นที่ เพื่อเป็นการสร้างรายได้ช่วยสนับสนุนวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชน
สำหรับเมนูแรก เริ่มกันที่ สลัดเบาๆ เราลองสั่งสลัดมาทานเรียกน้ำย่อยกันก่อน แนะนำสองเมนูนี้เลยค่ะ Seared Scallop Salad สลัดผักกับหอยเชลล์ย่างตัวอวบอ้วน และ Devasom Citrus Salad สลัดส้มรสชาติเปรี้ยวนิดๆ สดชื่นดีเลยล่ะ
ต่อด้วยพาสต้ากุ้งมังกร Lobster Aglio e olio รสชาติสไตล์อิตาเลียน ผสมผสานกับกุ้งมังกรภูเก็ตได้อย่างเข้ากัน
อีกหนึ่งเมนูที่ทานกันคือ Angus Rib Eye Steak สเต็กเนื้อริบอายออสเตรเลีย สั่งระดับความสุกแบบ medium rare ก็ทำออกมาได้ดีเลยค่ะ เนื้อไม่ได้นุ่มมากเท่าไหร่ กำลังเคี้ยวเพลินๆ เสิร์ฟพร้อมกับเครื่องเคียงที่เลือกเองได้ เราเลือกเป็นข้าวโพดย่างและหน่อไม้ฝรั่ง
ตบท้ายกันด้วยของหวาน Grilled Mango Gelato ไอศกรีมมะม่วงและมะม่วงสุกที่เบิร์นมานิดๆ และ Chocolate lava with ice cream ช็อคโกแลตลาวาเข้มข้น เสิร์ฟมากับไอศกรีมวานิลลา ทานเข้ากันลงตัวกำลังดี
และแล้ววันนี้… เราก็เจอแสงอาทิตย์ยามเย็นสวยแบบต้องร้องว้าว! อยู่ตรงบริเวณหน้าหาดของรีสอร์ทนี้เอง เป็นการปิดท้ายทริปที่แสนเพอร์เฟ็คและประทับใจ คุ้มค่ากับการรอคอยและกลับมาที่นี่อีกครั้ง…
สรุปความประทับใจ
ถ้าใครไปเที่ยวทะเลย่านจังหวัดพังงา แนะนำเลยว่าห้ามพลาดที่จะลองมาพักที่นี่ ทั้งดีไซน์ ความใส่ใจรายละเอียด ห้องพักที่แสนสบาย พื้นที่ในรีสอร์ทกว้างขวางแต่ห้องพักไม่เยอะ เน้นความสงบเป็นส่วนตัว กิจกรรมต่างๆ ก็ครบ และหลากหลายเหมาะกับทุกเพศทุกวัย สำหรับเรากลับมาพักที่นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ก็ยังประทับใจ และอยากกลับมาอีกเรื่อยๆ ถ้ามีโอกาสค่ะ
ทางรีสอร์ทมีโปรโมชั่นห้องพักออกมาเรื่อยๆ นะคะ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.devasom.com/khaolak
Facebook: www.facebook.com/devasomkhaolak
E-mail: rsvn.khaolak@devasom.com
Tel.: 076-592-277
