รีวิว The Royal Sands Koh Rong เที่ยวทะเลกัมพูชา น้ำใสแบบไม่น่าเชื่อ!

เพิ่งรู้ว่า ‘ทะเลกัมพูชา’ สวยเวอร์วังขนาดนี้! 

ทั้ง สด ดิบ บริสุทธิ์ ทรายขาว น้ำใส  

กล้าการันตีเลยว่าน้ำทะเลสีฟ้าจริงๆ สวยไม่แพ้น้ำทะเลมัลดีฟส์เลยล่ะ 

ที่นี่…‘เกาะรง’ ประเทศกัมพูชา

ทะเลสวย ทรายขาว หาดยาว บางมุมสวยราวกับมัลดีฟส์

ถ้าชอบทะเล บอกเลยว่ามาที่นี่ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ

ลองดูวิดีโอความสวยงามของที่นี่กันก่อนได้ค่ะ

เมื่อเดือนพฤษภาคม 2019 นุ่นมีโอกาสได้เดินทางไปพักผ่อนที่รีสอร์ท ‘เดอะ รอยัล แซนด์ เกาะรง’ ( The Royal Sands Koh Rong Resort ) ประเทศกัมพูชามาค่ะ เราเริ่มเดินทางจากกรุงเทพฯ โดยนั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวกับ VIPJets บินตรงจากดอนเมืองลงสีหนุวิลล์ แค่ 1 ชม. จากนั้นมีรถจากรีสอร์ทมารับถึงสนามบิน ไปที่ท่าเรือและนั่งเรือของรีสอร์ทไปถึงเกาะรงได้เลยทันที (นั่งเรือประมาณ 30 นาที) 

ด้านในเครื่องบินส่วนตัว จะมีที่นั่งสำหรับผู้โดยสายทั้งหมด 4 ที่นั่ง และกัปตัน + ผู้ช่วย 2 ที่นั่ง เบาะเป็นเบาะหนังสีครีม หรูหรา นั่งสบาย

 จาก ดอนเมือง – สีหนุวิลล์ (กัมพูชา) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เท่านั้นค่ะ

เราเคยเขียนกระทู้รีวิว VIPJets ไว้อย่างละเอียด

สามารถกดอ่านจากลิ้งก์นี้ได้ค่ะ https://bestiewanderer.com/travel/vipjets-review/

หรือรับชมในวิดีโอด้านล่างนี้ก็ได้นะคะ

นอกจากเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวจาก VIPJets ที่เรานั่งมานั้น…

คือก็มีอีกทางเลือก ให้เดินทางมาที่นี่ได้สะดวกและประหยัดขึ้นค่ะ

สายการบิน AirAsia เค้ามีไฟลท์บินตรง “ดอนเมือง-สีหนุวิลล์”

4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (จันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์) เริ่มบินตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2562 ที่ผ่านมา

ลองกดดูราคาไฟลท์ได้ที่ https://www.airasia.com

( ตอนนี้ยังงดบินอยู่นะคะ หากหมดช่วงโควิด-19 ระบาด น่าจะกลับมาบินใหม่อีกครั้ง )

 หลังจากลงเครื่องบินที่สีหนุวิลล์ ทางรีสอร์ทก็ส่งเจ้าหน้าที่มารับ

และพาขึ้นรถของรีสอร์ทไปที่ท่าเรือ ระหว่างทางจากสนามบินไปที่ท่าเรือ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

  ระหว่างทาง จากสนามบินไที่ท่าเรือของรีสอร์ท ก็จะเห็นบรรยากาศบ้านเมืองของสีหนุวิลล์ 

กำลังมีโปรเจ็คใหญ่ๆก่อสร้างอยู่มากมาย ทั้งโรงแรมและคาสิโน

ร้านค้า และร้านขายของชำต่างๆที่เรานั่งรถผ่าน ยังเป็นแบบรถเข็นและรถพ่วงข้างแบบบ้านๆ ซะส่วนใหญ่

 พอถึงท่าเรือ เค้าก็จะมีห้องรองรับส่วนตัวของรีสอร์ท เราจะเช็คอินกันตรงนี้

และพอไปถึงรีสอร์ทก็จะสามารถเข้าห้องพักได้ทันทีเลย

 ไปจ้า รอไม่นานก็ถึงเวลานั่งเรือไปที่รีสอร์ทกัน

 จากท่าเรือไป The Royal Sands Koh Rong Resort ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีค่ะ

บริเวณด้านซ้ายของทางรีสอร์ทมีท่าเรือส่วนตัวอยู่ด้วยค่ะ 

ถ้ามาที่ The Royal Sands Koh Rong Resort ช่วง Peak/High Season ที่อากาศดี 

เราจะขึ้นลงเรือจากท่าเรือนี้กันเลย แต่ถ้าวันไหนคลื่นลมแรง 

เค้าจะพาเราไปขึ้นลงเรือจากอีกท่าเรือนึงซึ่งอยู่อีกฟากของเกาะค่ะ

   บอกเลยว่าทันทีที่ถึงรีสอร์ท… คือรู้สึกว้าวกับสีของน้ำทะเลมากๆ 

ถ้าไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเองก็คงไม่เชื่อว่า… ทะเลกัมพูชา ใสกริ๊ง ไม่แพ้ใคร!

 หาดบริเวณหน้ารีสอร์ท The Royal Sands Koh Rong Resort 

ทรายขาวเนียนมากจริงๆ ที่สำคัญนักท่องเที่ยวยังไม่เยอะด้วย เป็นส่วนตัวสุดๆ รีบมาชิลกันนะ

ที่นี่เป็นรีสอร์ท 5 ดาวหนึ่งเดียวของเกาะ ณ ตอนนี้ เพิ่งจะสร้างเสร็จเมื่อไม่นานนี้เอง

ห้องพักที่นี่เห็นวิวทะเลทุกห้องด้วยนะเออ ราคาเริ่มต้นประมาณ 8,000 บาท/คืน (สำหรับสองคน)

เรามีโอกาสได้คุยกับเจ้าของรีสอร์ทที่่นี่ เค้ากล้าบอกเลยว่า ทะเลของเกาะรง โดยเฉพาะหน้ารีสอร์ทนี้ 

สวย บริสุทธิ์ และสงบขนาดนี้ ราวกับว่านี่คือสิมิลันเมื่อ 20 ปีก่อนชัดๆ

ไปดูที่พักของเราในทริปนี้กันเลยค่ะ เราพักในวิลล่า Beachfront Pool Villa อยู่แถวหน้าสุด 

วิ่งลงหาดได้เลยล่ะค่ะ ราคาประมาณ 20,000 บาท/คืน

เราชอบที่เค้าออกแบบให้สระว่ายน้ำเป็นสีฟ้าๆ 

ตัดกับตัววิลล่าที่สีขาวๆ สีเดียวกันกับทรายบริเวณชายหาด 

และหลังคาก็สีโทนเดียวกับต้นไม้ เข้ากับบรรยากาศและดูเป็นธรรมชาติ 

แต่ก็เนี๊ยบสมกับเป็นรีสอร์ท 5 ดาวจริงๆ

ด้านในมีเตียงใหญ่มากกกก และเครื่องนอนจัดได้ว่านุ่มสบายไม่แพ้โรงแรมในเครืออินเตอร์ดังๆเลยล่ะค่ะ

นอกจากนั้นก็มี Sofa Bed, TV (มีช่องของไทยซะด้วยนะ), 

และมุมตู้เย็นมินิบาร์เล็กๆ ด้านในมินิบาร์มีน้ำดื่ม ชา กาแฟ และคุ้กกี้ให้ทานฟรี 

นอกนั้นเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มนะคะ

  Welcome Fruit หรือผลไม้ต้อนรับที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ในห้อง

ในห้องน้ำก็กว้างงง แบบนอนได้อีกสองคนเลยล่ะ มีทั้งอ่างอาบน้ำ และฝักบัว 

รวมถึงโซนอาบน้ำแบบ outdoor ด้วยนะเออ

สามารถเปิดประตูออกไปที่สระว่ายน้ำได้เลยค่ะ

 ถ้าเปิดประตูจากตรง outdoor shower มา ก็จะเห็นวิวทะเลเลยแบบนี้และสามารถลงสระได้เลยล่ะค่ะ สะดวกดีเนาะ

ในรีสอร์ทมีกิจกรรม พายคายักในป่าโกงกาง แพดเดิ้ลบอร์ด สปา 

หรือ ถ้าชอบดำน้ำสน็อกเกิ้ล ก็มีด้วยนะคะ 

เราออกไปพายคายักในป่าโกงกางช่วงเย็นกัน แดดจะได้ไม่ร้อน 

และเห็นวิวพระอาทิตย์ตกจากอีกมุมหนึ่งของเกาะด้วยค่ะ

 เจ้าหน้าที่ของรีสอร์ทพาขึ้นรถกระบะออกไปที่ป่าโกงกาง 

ขับรถไปประมาณ 20 นาทีจากรีสอร์ท

ถนนระหว่างทางก็จะประมาณนี้จ้า แทบไม่มีการลาดยางใดๆ ยังดิบๆ มากๆ

 ตอนพายคายักไม่ต้องกังวลว่าจะหลง หรือจะจมนะคะ

มีชูชีพ และเจ้าหน้าที่พายนำหน้า และดูแลเราตลอดกิจกรรมค่ะ

 ระหว่างทางก็พายไป ชมป่าโกงกางไปอ่ะเนาะ มีนกแปลกๆบินมาอวดโฉมเรื่อยๆ 

แต่นี่ก็มัวแต่พายกัน ไม่ทันได้ถ่ายนกไว้เลย ไว้มาเห็นด้วยตัวเองกันเน้อ

 พายคายักมาเรื่อยๆประมาณ 15-20 นาที เราก็จะมาโผล่ที่ปากอ่าว ที่เชื่อมกับทะเล

ตลอดระยะเวลาสามวันสองคืนที่นี่ แน่นอนค่ะว่า เราฝากท้องไว้กับห้องอาหารของรีสอร์ท 
ซึ่งก็อร่อยทุกอย่างจริงๆ โดยเฉพาะเมนูที่ชื่อว่า “Lok Lak” 
เค้าจะใช้กุ้งหรือเนื้อเป็นวัตถุดิบหลัก ไปผัดกับเครื่องปรุงของเค้า 
กินกับข้าวสวยร้อนๆ และน้ำจิ้มของเค้าจะรสชาติจะหอมพริกไทย 
และมีรสเปรี้ยวของมะนาวด้วย คืออร่อยจนเรากินเมนูนี้อยู่หลายมื้อ 
ไม่อยากจะเชื่อว่าอาหารกัมพูชาเมนูนี้ จะรสชาติถูกปากคนไทยเราขนาดนี้

นี่แหละหน้าตาเมนู “Lok Lak กุ้ง” สุดโปรดของเรา

จานนี้ “Lok Lak เนื้อ” เสิร์ฟมากับไข่ดาวด้วยจ้า เนื้อนุ่มกำลังดี อร่อยมาก!

ถ้วยนี้ “เฝอเนื้อ” ซดร้อนๆ คล่องคอดีมากค่ะ

เมนูทั่วไปอย่างสลัด พิซซ่า ไก่ทอด สปาเก้ตตี้ ก็มีนะคะ 
เราลองพิซซ่าซีฟู้ด เค้าก็อบใหม่สดๆ มาแบบชีสเยิ้มๆ อร่อยไม่เบาเหมือนกันนะคะ

สเต็กเนื้อชิ้นโตมากกกก เสิร์ฟมากับเฟรนช์ฟรายส์ อร่อยจุกๆกันไปค่ะมื้อนี้

เดี๋ยวเราจะพาไปเดินเล่นริมหาด เล่นน้ำทะเลใสๆหน้ารีสอร์ทกันบ้างเนาะ

จุดเด่นมากๆที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ชายหาดหน้ารีสอร์ท ทอดยาวแบบสุดลูกหูลูกตาจริงๆ
เรามา 3 วันยังเดินไปไม่สุดเล้ย เค้าบอกว่าหาดที่นี่ยาวกว่า 8 กม. เลยล่ะ 

และหาดทรายที่ขาว นุ่มละเอียด เหมือนผงแป้งเลยล่ะ 
เดินแล้วนุ่มเท้ามากๆ เรายังไม่ค่อยเห็นทรายแบบนี้ที่ทะเลไทยเลย สุดยอดมากค่ะ

ทั้งหาดแทบจะไม่มีคนเลยค่ะ เราชอบมากๆ 
มาที่นี่พักผ่อนได้เต็มที่จริงๆ และรู้สึกปลอดภัย แล้วไม่ต้องเขิลใครด้วย

และแล้วก็มาถึงเรื่องน้ำทะเลกันบ้างเนาะ… ไม่ต้องสงสัยเลยล่ะค่ะว่าสวยแค่ไหน
ที่ “เกาะรง” โดยเฉพาะบริเวณหน้ารีสอร์ท The Royal Sands
เป็นเกาะที่พอทุกคนมาถึง จะเห็นน้ำทะเลสวยๆ ใสๆ สีฟ้า ไล่ระดับ
จนต้องคว้าโทรศัพท์มาถ่ายรูปกันสักแชะสองแชะ (หรือมากกว่านั้นแบบเรา ฮ่าๆ) ก่อนจะลงน้ำกันแน่ๆ

ดูสิคะ ไม่รู้ทำไม…ธรรมชาติที่นี่ถึงได้ยังสมบูรณ์และสวยขนาดนี้น้อ… 
แค่ได้นั่งมองน้ำทะเลที่นี่ และลงเล่นน้ำกันชิลๆ ก็สวยมากๆ และชิลสุดๆไปเลยล่ะ

ช่วงที่คลื่นลมทะเลสงบ ไม่มีพายุ และน่ามาเที่ยวที่เกาะรงที่สุดคือช่วงเดือน ธ.ค. – เม.ย. ของทุกปีค่ะ
ดูสีน้ำทะเลสิคะคุณผู้ชมคะ… เห็นตอนแรกเราถึงกับอึ้ง! 
โอ๊ยยย ชอบอะไรแบบนี้จริงๆ อยู่แค่ที่รีสอร์ทก็เล่นได้ทั้งวันเลย
ไม่ต้องออกทริปออกเรือไปไหนไกลเลยล่ะ

ปล. ตรงหน้ารีสอร์ทนี้คือไม่มีปะการังและไม่มีปลานะคะ
ถ้าอยากจะดำน้ำสน็อกเกิ้ลอะไรแบบนั้น ต้องนั่งเรือออกไปจ้า
แต่เราไม่ได้ลองไปค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะเป็นยังไง
ทริปนี้เราขอแค่มาพักผ่อนชิลๆ ชาร์ตพลังกับบรรยากาศสงบๆสวยๆแบบนี้ดีกว่า

กลับมาดู Facilities ต่างๆของโรงแรมอีกนิดนึงเนาะ
สระว่ายน้ำส่วนกลางของรีสอร์ท เค้าตั้งใจทำออกมาให้เป็นสีดำ และก็เห็นวิวทะเลตรงหน้าแบบนี้

บริเวณจุดต่างๆของรีสอร์ท ก็มีมุมให้ถ่ายรูป และนั่งพักผ่อนเยอะเลยล่ะค่ะ

ช่วงเย็น ก็ชิลในสระว่ายน้ำส่วนตัวใน Beachfront Pool Villa ของเรา 
พร้อมชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าจากตรงนี้ได้เลยน้า 

หรือจะเดินออกมานั่งชิลริมหาดช่วงพระอาทิตย์ตก
ก็สวยมากเช่นกัน และได้ฟิลไปอีกแบบนะคะ

ถ้าอยากเติมเต็มทริปนี้ให้ฟินขึ้นไปอีก อย่าลืมไปลองเมนูอาหารมื้อค่ำของทางรีสอร์ทนะคะ
เค้าทำสเต็กแกะอร่อยมากๆ เรากับพี่ ทานไปจิบไวน์ไปกันแบบจุกๆเลยล่ะ

ดูสิทะเลสวยขนาดนี้ อยู่ใกล้ไทยมากขนาดนี้…
แต่ถามว่าคนไทยรู้จักที่นี่บ้างหรือยัง? ไปเที่ยวกันบ้างมั้ย? 
ทางรีสอร์ทบอกเลยว่ายังน้อยมากๆ คงเพราะเมื่อก่อนเดินทางลำบาก
ยังไม่มีไฟลท์บินมาจากไทยเท่าไหร่…

แต่ตอนนี้ นอกจากเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวจาก VIPJets ที่เรานั่งมานั้น… 
คือก็มีอีกทางเลือก ให้เดินทางมาที่นี่ได้สะดวกและประหยัดขึ้นแล้ว
ด้วยไฟลท์บินตรง “ดอนเมือง-สีหนุวิลล์” จากสายการบิน AirAsia

พร้อมแล้วก็…ตามไปสัมผัสบรรยากาศความสวยงาม
ของทะเลกัมพูชากันต่อได้ในวิดีโอนี้นะคะ


ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ แล้วไว้พบกันใหม่ รีวิวหน้าค่ะ : )
สำหรับใครที่สนใจรีวิวการเดินทางของเรา
สามารถติดตามดูรูปเพิ่มเติมและรีวิวแบบ VDO ท่องเที่ยวของเราได้ที่ช่องทางด้านล่างนะคะ
YouTube: https://www.youtube.com/bestiewanderer
Facebook: https://www.facebook.com/bestiewanderer
Instagram: https://www.instagram.com/bestiewanderer

Facebook Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *