รีวิว แชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ( Shangri-La Hotel, Bangkok ) โรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่วิวดีที่สุด!

โรงแรม แชงกรี-ลา กรุงเทพฯ อยู่ในกลุ่มเครือโรงแรมแชงกรี-ลา โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ที่มี โรงแรมและรีสอร์ทหรูมากกว่า 80 แห่งทั่วโลก ในประเทศ ออสเตรเลีย, แคนาดา,
จีนแผ่นดินใหญ่, ฟิจิ, ฝรั่งเศส, ฮ่องกง, อินเดีย, อินโดนิเซีย, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, มัลดีฟส์, มอริเชียส, มองโกเลีย, พม่า, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ศรีลังกา, โอมาน, ไต้หวัน, ไทย, ตุรกี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ สหราชอาณาจักร สามารถใช้บริการรอยัลตี้โปรแกรมโกลเด้นท์ เซอร์เคิล ของกลุ่มเครือแชงกรี-ลา เพื่อสะสมแต้มเมื่อเข้าพักและใช้บริการในกลุ่มเครือโรงแรมแชงกรี-ลา โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ททั่วโลก ซึ่งในประเทศไทยมีโรงแรมแชงกรี-ลา อยู่ 2 แห่ง คือที่ กรุงเทพฯ และ ที่ เชียงใหม่

สำหรับ โรงแรม แชงกรี-ลา กรุงเทพฯ เราว่าเป็นโรงแรมที่เราว่าใครๆ ที่อยู่กรุงเทพฯ ก็น่าจะรู้จักและเคยเห็นตึกของโรงแรมที่ตั้งโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามาอย่างยาวนานและอยู่ใกล้ BTS สถานีสะพานตากสินนั่นเอง โดยโรงแรมมีห้องพักทั้งหมด 802 ห้อง และแบ่งเป็นสองตึกใหญ่ๆ คือตึก กรุงเทพฯ วิง และ ตึก แชงกรี-ลา วิง ภายในโรงแรมจะมีทางเชื่อมทั้งสองตึก สามารถเดินทะลุกันได้โดยไม่ต้องออกจากตัวอาคารของโรงแรม หรือสามารถใช้บริการตุ๊กตุ๊กของโรงแรมก็ได้เช่นกัน

บริเวณล้อบบี้ของโรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ กว้างขวาง โอ่อ่า และหรูหรา แต่ก็ดูอบอุ่นด้วยโทนสี และบริการจากพนักงานที่เข้ามาต้อนรับเราตั้งแต่ลงจากรถ จนเช็คอินเสร็จเรียบร้อย

สำหรับการเข้าพักในครั้งนี้ เรานุ่นนุ่นจองแพ็กเกจ “SHANGRI-LA STAYCATION” ซึ่งสามารถเช็คอินได้ทุกเวลาตามที่ต้องการ และเข้าพักได้เป็นเวลา 24 ชั่วโมง เช่นถ้าเรามาเช็คอินบ่ายสาม ก็สามารถเช็คเอาท์ได้ในเวลาบ่ายสามในวันถัดไป! ( ปกติเวลาเช็คอินคือบ่ายสอง และเช็คเอาท์เที่ยง ) เราจะสรุปสิทธิประโยชน์ทั้งหมดของแพ็กเกจนี้ให้อีกทีช่วงท้ายของรีวิวนะคะ

ห้องพักของเราในครั้งนี้ อยู่ที่ชั้น 20 เป็นห้อง Deluxe River View หมายเลขห้อง 2019

ภายในห้อง Deluxe River View กว้าง 36 ตร.ม. ในห้องน้ำมี amenities ครบครันทุกอย่าง มีอ่างอาบน้ำ และ shower แยกกัน และเข้าพักช่วงนี้ ทางโรงแรมเตรียม หน้ากากอนามัย สเปรย์แอลกอฮอล์ล้างมือไว้ให้ในห้องด้วยค่ะ

วิวสระว่ายน้ำ ที่เราถ่ายรูปจากห้องพัก

จุดเด่นของห้อง Deluxe River View คือเห็นวิวแม่น้ำสวยสะพรึงมาก! อยู่แล้วอิน จนไม่อยากออกไปไหนเลยค่ะ

สำหรับใครที่จองแพ็กเกจ STAYCATION จะได้รับบริการนวด คอ บ่า หรือ เท้า ฟรี 30 นาที สำหรับ 1 ท่าน ต่อการเข้าพัก ที่บริเวณริมสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ช่วงนี้เป็นส่วนตัวสุดๆ ค่ะ ช่วงที่เราเข้าพัก ต้นเดือน ส.ค. 2563 แทบจะเหมือนเหมาสระว่ายน้ำเป็นของเราเองเลย! สระที่นี่ได้ฟีลเหมือนไปดักผ่อนในรีสอร์ทตามชายทะเลเลยล่ะ แต่ว่าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในกรุงเทพฯ นี่เอง

จะเลือกนั่งชิลล์มุมไหนก็สบาย และสวยไม่แพ้กัน

โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ สระโล่ง ไร้นักท่องเที่ยวต่างชาติ บรรยากาศเงียบสงบ น่าไปพักผ่อนสุดๆ

ช่วงเย็น บรรยากาศที่สระว่ายน้ำก็สวยไม่แพ้กัน

ถ้าทุกคนเคยนั่งเรือผ่านหรือเคยมองมาที่โรงแรมจากมุมบนสะพานตากสิน จะเห็นว่าโรงแรมมีพื้นที่ติดแม่น้ำที่หน้ากว้างมาก ทำให้ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนในโรงแรม ก็เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้สวยงามและหลากหลายมุม

มุมนี้ หน้าห้องอาหารศาลาทิพย์ ก็เป็นอีกมุมที่เราว่าสวยมาก ถ้าไปแล้วห้ามพลาดมาถ่ายรูปมุมนี้กันค่ะ

เรากลับมานั่งรอแสงพระอาทิตย์ตก ในห้องของเรากันต่อ ขอบอกว่า ถ้าวันไหนฟ้าใส เมฆไม่หนา มุมนี้จะได้แสงยามเย็นที่สวยมาก! วันที่เราไปพอจะได้เห็นแสงบ้างนิดหน่อย
แต่เราว่าก็สวยมากเลยล่ะค่ะ เอาจริง…แค่ได้นั่งมองวิวไปเรื่อยๆ ก็มีความสุขแล้ว เนาะ 

NEXT2 Cafe

โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ มีห้องอาหารและบาร์รวมทั้งหมด 6 ที่ แต่ห้องอาหารหลัก ALL DAY DINING ของโรงแรมคือที่นี่ค่ะ “เน็กซ์ทู คาเฟ่ ( NEXT2 Cafe )” อยู่บริเวณริมแม่น้ำ เปิดให้บริการ ทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อค่ำ

มาดินเนอร์ที่นี่ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้นั่งริมน้ำนะคะ ที่นี่มีมุมให้ได้นั่งชมวิวกันได้หลายมุมจนเลือกลำบากเลยล่ะค่ะ เราสั่ง Mocktails ชื่อ Chao Praya Breeze และ Strawberry Sunrise มาดื่มชิลล์ๆ จิบเบาๆ รับลมชมวิวกันก่อน สดชื่นมาก!

เมนูอาหารที่ NEXT2 Cafe มีทั้งเมนูอาหารไทย และเวสเทิร์น จัดมาครบ อร่อยมาก แถมวิวดี

เราชอบสเต็กปลาแซลมอนเป็นพิเศษ เชฟกริลล์มากำลังพอดี เนื้อปลาไม่มีกลิ่นคาวและไม่สุกเกินไป พอทานราดซอสที่เสิร์ฟมาด้วย คือเข้ากันมาก

ทานมื้อค่ำอิ่มแล้ว ก็กลับมาชมวิวตอนกลางคืนจากบนห้องกันต่อ บรรยากาศยามค่ำคืนของแม่น้ำเจ้าพระยาคือสวยมากกก ยิ่งวิวห้อง Deluxe River view คือดีงามสุด! ไม่อยากจะคิดว่าถ้ามาพักตอนช่วงเทศกาลที่มีการจุดพลุ เช่น ลอยกระทง จะสวยฟินขนาดไหน…

ปกติแล้วอาหารเช้าที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ จะจัดเป็นแบบไลน์บุฟเฟ่ต์ แต่เสิร์ฟช่วงที่เราไปพัก ต้นเดือน ส.ค. 2563 ยังไม่ใช่แบบไลน์บุฟเฟ่ต์ตามปกตินะคะ ทางโรงแรมทำเป็นบุฟเฟ่ต์แบบ a la carte คือสั่งได้จากเมนู แบบไม่อั้น เชฟจะทำเสิร์ฟให้สดใหม่จานต่อจาน

เมนูอาหารเช้า
Eggs Florentine – poached eggs on multigrain bread with butter sauteed spinach, homemade smoked salmon and Hollandaise sauce
ทาน breakfast กับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาฟินๆ ปิดท้ายการมาพักผ่อนสบายๆ ที่ แชงกรี-ลา กรุงเทพฯ

สำหรับการมาพักผ่อนที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี ที่จะทำให้คุณได้อิ่มเอมกับบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ใช้เวลาผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ไปกับ Facilities ต่างๆ ได้หลีกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนในบรรยากาศสไตล์รีสอร์ทใจกลางเมืองกรุง ยิ่งตอนนี้ทางโรงแรมมีแพ็กเกจพิเศษ “SHANGRI-LA STAYCATION”

แพ็กเกจ “SHANGRI-LA STAYCATION” จัดเต็ม ทั้ง กิน นอน นวด ครบ! จบทริปพักผ่อนสบายๆ แบบไม่ต้องไปไกล ในราคาเริ่มต้นคืนละ 3,900 บาทถ้วนต่อห้อง สำหรับการเข้าพักเป็นเวลา 24 ชั่วโมง สามารถเช็คอินได้ทุกเวลาตามที่ต้องการ และฟรีอัพเกรดห้องพักไปยังห้อง “Deluxe River View” ซึ่งเป็นสามารถเห็นวิวแม่น้ำจากบนเตียงได้เลย นอกจากนี้ยังรวมสิทธิประโยชน์สุดพิเศษ ได้แก่
• รวมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน ณ เน็กซ์ทู คาเฟ่
• เครดิตแทนเงินสดมูลค่า 500 บาทถ้วนต่อการเข้าพัก
สำหรับทานอาหารและเครื่องดื่มระหว่างการเข้าพัก
• นวดคอ บ่า หรือ นวดเท้า 30 นาทีฟรี 1 ท่าน ต่อการเข้าพัก
• เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าพักฟรีได้สูงสุด 2 คนต่อห้อง

สำหรับแพ็คเกจนี้ สามารถจองและเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้ – 24 ธ.ค. 2563
( สำหรับใครที่สนใจใช้สิทธิ์จากโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ต้องเข้าพักภายใน 31 ต.ค. 2563 ถึงจะได้รับส่วนลดค่าห้องพัก 40% จากโครงการรัฐบาล ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน สูงสุด 5 คืน )

สนใจโทรจองได้ที่ โทร. 02 236 7777
หรือดูข้อเสนอพิเศษอื่นๆ ได้ที่ www.shangri-la.com/bangkok

Facebook Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *